กรรมวิธีการสกัดกวาวเครือขาวเพื่อเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนด้วยเอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเตส

เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พร้อมถ่ายทอด

กรรมวิธีการสกัดกวาวเครือขาวเพื่อเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนด้วยเอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเตส

ที่มาและความสำคัญ

กวาวเครือขาวเป็นสมุนไพรในตำรับยาไทยซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ กวาวเครือขาวมีสรรพคุณบำรุงร่างกายในวัยชราเพราะว่าหัวกวาวเครือขาวมีองค์ประกอบทางเคมีเป็นสารออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจน หัวกวาวเครือขาวบรรเทาอาการที่เกิดจากภาวะขาดฮอร์โมนเอสโทรเจนในหญิงวัยทอง หวักวาเครือขาวมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการรักษาโดยฮอร์โมนเอสโทรเจนทดแทนในผู้ป่วยที่มีอาการวัยทอง สารสกัดหัวกวาวเครือขาวลดความเสี่ยงของภาวะกระดูกพรุน และบรรเทาอาหารจากโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้น สารสกัดกวาวเครือขาวมีศักยภาพในการบรรเทาอาการที่เกิดสภาวะขาดฮอร์โมนเอสโทรเจน ทางทีมนักวิจัยจึงได้คิดค้นกรรมวิธีสกัดกวาวเครือขาวเพื่อเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนด้วยเอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเตสขึ้น

เทคโนโลยี

กรรมวิธีการสกัดกวาวเครือเพื่อเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนด้วยเอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเตส ประกอบด้วย การตรึงแอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเดสด้วยอัลจิเนต และการเปลี่ยนแปลงสารสำคัญของสารสกัดกวาวเครือทั้งรูปแบบเอนไซม์ตรึงและเอนไซม์อิสะ ซึ่งสามาถเปลี่ยนแปลงสารสำคัญของกวาวเครือได้และเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนได้มากกว่าเท่า เมื่อทดสอบระดับเซลล์ 20 เพาะเลี้ยงเพื่อให้กระบวนการเปลี่นนแปลงสารสำคัญของกวาวเครือขาวเกิดขึ้นอย่างจำเพาะ คือ เปลี่ยนสารไดด์ซินและจินิสทินเป็นสารไดด์ไซน์และจีนิสไทน์โดยเอนไซม์เบต้า-หลูโคซิเดส เพื่อการพัฒนาสภาวะที่เหมาะสมของกระบวนการตรึงเอนไซน์เบต้ากลูซเดส และการทำปฏิกิริยาของเอนไซม์เบต้า-กลูโคซเดสทั้งรูปแบบเอนไซม์อิสระและเอนไซม์ตรึง เพื่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงสารโครงสร้างทางเคมีของสารสกัดกวาวเครือขาว และเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนของสารสกัดกวาเครือขาว การพัฒนาการตรึงเอนไซม์มีเป้าหมายนำกลับเอนไซม์มาใช้ซ้ำได้ การศึกษาปัจจัยที่เหมาะสมสำหรับการเพิ้มฤทธิ์เอสโทรเจนของสารสกัดกวาวเครือขาว จึงเหมาะสมสำหรับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม

ชื่อนักวิจัย / สำนักวิชา

ชื่อนักวิจัย ผศ.ดร.กรวิทย์ อยู่สกุล
สำนักวิชา เภสัชศาสตร์

ประเภททรัพย์สินทางปัญญา

อนุสิทธิบัตร – เลขที่คำขอ 2103000518

ข้อดี / จุดเด่น

เพื่อเพิ่มฤทธิ์เอสโทรเจนด้วยเอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเตส

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ www.pexels.com

Scroll to Top